วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

2,027 การเพิ่มขึ้นของ rheumatoid factor และความเสี่ยงในระยะยาวของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์


Elevated rheumatoid factor and long term risk of rheumatoid arthritis: a prospective cohort study
BMJ. 2012 Sep 6

วัตถุประสงค์ เพื่อตรวจสอบว่าการเพิ่มขึ้นของระดับ rheumatoid factor มีความสัมพันธ์ในระยะยาวกับการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
รูปแบบการศึกษา เป็นการศึกษาแบบ prospective cohort study ของ Copenhagen City Heart Study โดยการตรวจเลือดประชากรใน Copenhagen ในปี 1981-1983 และติดตามมาจนถึง 10 สิงหาคม 2010
ผู้เข้าร่วมการศึกษา เป็นประชากรชาวเดนมาร์กผิวขาว 9,712 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 20-100 ปีโดยไม่ได้เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในช่วงที่เข้าร่วมการศึกษา
การตรวจวัดผลลัพท์ ตรวจดูความสอดคล้องของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์กับระดับ IgM rheumatoid factor พื้นฐาน โดยแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ได้แก่ 25-50, 50.1-100, และมากกว่า100, เปรียบเทียบกับที่น้อยกว่า 25 IU/mL
ผลการศึกษา ระดับของ rheumatoid factor จะคล้ายกันจากอายุ 20-100 ปี ใน 187,659 คน-ปี ซึ่งพบว่ามี 183 คนที่เกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โดยในผู้ที่มีสุขภาพดี การเพิ่มขึ้นสองเท่าของระดับ rheumatoid factor มีสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้น 3.3 เท่า (95% confidence interval 2.7 to 4.0) ของความเสี่ยงในการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งมีแนวโน้มคล้ายกับโรค autoimmune rheumatic อื่นๆ ส่วนใหญ่ อุบัติการสะสมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เพิ่มขึ้นร่วมกับการเพิ่มขึ้นของระดับ rheumatoid factor  (P(trend) น้อยกว่า 0.0001), multivariable adjusted hazard ratios ของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เป็น 3.6 (95% confidence interval 1.7-7.3) สำหรับระดับ rheumatoid factor ที่ 25-50 IU / ml, 6.0 (3.4 -10) สำหรับที่ 50.1-100 IU / ml และ 26 (15-46 ) สำหรับที่มากกว่า 100 IU / ml เมื่อเทียบกับระดับที่น้อยกว่า 25 IU / ml (p (trend) น้อยกว่า 0.0001), โดย absolute 10 year risk ที่สูงสุดของ rheumatoid arthritis อยู่ที่ 32% โดยพบในผู้หญิงช่วงอายุ 50-69 ปี ซึ่งสูบบุหรี่ร่วมกับการมีระดับ rheumatoid factor ที่มากกว่า 100 IU / ml
สรุป ในประชากรทั่วไป ผู้ที่มี rheumatoid factor สูงขึ้น มีความเสี่ยงในระยะยาวของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ถึง 26 เท่า และมากขึ้นถึง 32% ของ10 year absolute risk ของการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งผลการวิจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่​​การแก้ไขของแนวทางปฏิบัติสำหรับการส่งต่อแพทย์ด้านรูมาติซั่มที่เร็วขึ้นรวมถึงการเข้าคลินิกโรคข้ออักเสบที่เร็วขึ้น โดยอาศัยการตรวจ rheumatoid factor

Ref: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22956589?dopt=Abstract

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น