ยาที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดตับอักเสบได้แก่ H, R และ Z ส่วนกรณีที่มีเฉพาะค่า bilirubin สูงขึ้นโดยไม่มีความผิดปกติของเอมไซม์ SGOT, SGPT มักเกิดจากยา R
คำแนะนำในการตรวจเลือดตรวจการทำงานของตับ
1. ก่อนเริ่มให้ยา
ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ดื่มสุราประจำ, มีประวัติเป็นโรคตับหรือมีไวรัสตับอักเสบ, ติดเชื้อเอชไอวี, มีภาวะทุพโภชนาการ และหญิงตั้งครรภ์
2. ระหว่างให้ยา
-ในผู้ที่ไม่มีความเสี่ยง ตรวจ AST/ALT และ total bilirubin เฉพาะกรณีที่มีอาการสงสัยตับอักเสบ
-ในผู้ที่ไม่มีความเสี่ยง ตรวจ AST/ALT และ total bilirubin ทุก 1-2 สัปดาห์ภายใน 1 เดือนแรก หลังจากนั้นพิจารณาตามความเหมาะสม
3. เมื่อผู้ป่วยมีอาการคลื่นใส้อาเจียน
-ผู้ป่วยทุกรายที่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนให้ตรวจเลือด
-ถ้า AST/ALT น้อยกว่า 3 เท่าของค่าปกติให้หยุดยา H, R และ Z
-ถ้า AST/ALT ตั้งแต่ 3 เท่าของค่าปกติให้รับประทานยาต่อ สืบค้นสาเหตุอื่นและติดตามหน้าที่การทำงานของตับภายใน 3 วัน
4. เมื่อผลเลือดผิดปกติโดยไม่มีอาการขณะได้รับยา
-ถ้า total bilirubin มากกว่า 3 มก./ดล. แต่ AST/ALT อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเพิ่มไม่เกิน 3 เท่าหยุดเฉพาะ R
-ถ้่า AST/ALT น้อยกว่า 5 เท่าของค่าปกติ ให้รับประทานยาต่อ เจาะเลือดดูการทำงานของตับทุก 1 สัปดาห์
-ถ้า AST/ALT มากกว่า 5 เท่าของค่าปกติหยุดยา H, R และ Z
5. ในกรณี re-challenge ยา
-ถ้าเป็น fulminant hepatitis ห้ามใช้ยาในกลุ่มนี้อีก
-เมื่อ AST/ALT ลดลงจนน้อยกว่า 2 เท่าของค่าปกติและ total bilirubin ลดลงจนน้อยกว่า 1.5 มก./ดล.
-เรียงการให้ยาจาก H, R และ Z ตามลำดับ
-ให้เริ่มจากขนาดยาปกติได้เลย
-หลังการให้ยาแต่ละชนิด เจาะเลือดดู AST/ALT และ total bilirubin ภายใน 1 สัปดาห์ ถ้าไม่พบความผิดปกติ จึงเริ่มยาตัวต่อไปได้
-ระหว่าง re-challenge ถ้าค่า AST/ALT หรือ total bilirubin กลับสูงขึ้นตามเกณฑ์ที่กล่าวไว้
ก่อนหน้าให้หยุดยาและไม่กลับมาให้ยานี้อีก
Ref: แนวทางการดำเนินงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติ พ.ศ. 2556
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น