วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

190. Blood urea nitrogen VS Creatinine

Lab 2 ชนิดนี้ต้องตรวจคู่กันเสมอหรือไม่ มีข้อบ่งชี้ต่างกันอย่างไร การจะเลือกตรวจว่าจะเลือกทั้งสองตัวหรือเลือกตัวใดตัวหนึ่งอาจพิจารณาจากความรู้พื้นฐานของสารทั้งสองตัว 
สารยูเรียเป็นผลิตผลสุดท้ายของการเผาผลาญโปรตีนที่ตับโดยขบวนการ deamination of amino acid โดยขนถ่าย nitrogen ที่ได้ไปทิ้ง โดยการขับออกทางไต ส่วนที่ยังกรองไม่หมดก็จะตกค้างอยู่ในกระแสเลือด เราจึงเรียกยูเรียและไนโตรเจนที่อยู่ในเลือดว่า Blood Urea Nitrogen [BUN] ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงมีผลโดยตรงมาจากปริมาณอาหารโปรตีนที่รับประทาน โรคไตเกือบทุกชนิดที่มีการกำจัดยูเรียออกน้อยจะทำให้ BUN สูงขึ้น รวมทั้งการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ ยาหรือสารพิษที่มีผลต่อไต การขาดน้ำ เลือดออกในทางเดินอาหาร [protein ที่อยู่ในเลือด] มีการทำลายโปรตีนในร่างกายมากขึ้นเช่น ไข้ ติดเชื้อ หญิงตั้งครรถ์ที่มีการสังเคราะห์โปรตีนเพิ่มขึ้น ค่าจะลดลงในกรณี ได้รับอาหารโปรตีนน้อย ยาบางอย่าง Creatinine เป็น by-energy ที่เกิดขึ้นจากการสลาย muscle creatinine phosphate ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และขึ้นกับ muscle mass ดังนั้นถ้า muscle mass ไม่เปลี่ยนแปลงค่า creatinine มักค่อนข้างคงที่ ถ้าสูงขึ้นมักเป็นผลมาจากความผิดปกติจากการทำงานของไตเป็นหลัก ดังนั้ถ้ามองในแง่ดูการทำงานของไต creatinine จะมีความสำคัญและถูกต้องแน่นอนกว่า BUN แต่การนำอัตราส่วนของค่าทั้งสองมาใช้ในทางคลินิกก็จะทำให้การแปลผลถูกต้องมากขึ้น ซึ่ง creatinine จะสูงในกรณี impair renal function, โรคที่มีการสร้างหรือการทำลายกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ ยาบางอย่าง และจะลดลงในกรณีที่มี muscle mass ลดลง
สัดส่วน (ratio) ของ BUN : Cr อยู่ระหว่าง 10:1 - 20:1, สัดส่วนจะสูงขึ้นจาก เลือดไปเลี้ยงไตลดลง เช่น ภาวะ congestive heart failure หรือ ภาวะขาดน้ำ เลือดออกในทางเดินอาหาร การรับประทานโปรตีนเพิ่มขึ้น สัดส่วนจะลดลงในโรคตับเนื่องจากลดการสร้างยูเรียและภาวะขาดสารอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น